การเลือกซื้อวอลเปเปอร์

สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนการเลือกซื้อวอลเปเปอร์

1. ชนิดของห้อง : เพื่อที่จะได้เลือกวอลเปเปอร์ให้เหมาะสมกับห้อง ควรตัดสินใจและระบุให้ชัดเจนว่าห้องที่จะติดวอลเปเปอร์เป็นห้องไหน ต้องการสไตล์การตกแต่งแบบไหนเช่น ห้องนอนใช้วอลเปเปอร์สีอ่อน ลายดอกไม้เล็กๆ ให้ดูสวยงาม, ห้องนอนเด็กๆ อาจจะใช้วอลเปเปอร์ดีไซน์ลายการ์ตูนสลับกับลายพื้นสีอ่อน, มุมกาแฟหรือห้องครัวอาจใช้วอลเปเปอร์ลายอิฐเป็นต้น.
2. ขนาดห้อง : ขนาดของห้องก็มีผลเป็นอย่างมากในการเลือกใช้วอลเปเปอร์ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้โทนสี รูปแบบแพทเทิร์นของวอลเปเปอร์ เช่น ห้องขนาดใหญ่ควรเลือกใช้วอลเปเปอร์ที่มีสีค่อนข้างเข้ม  ส่วนห้องขนาดเล็กควรใช้วอลเปเปอร์ที่มีสีโทนอ่อน เพื่อให้ห้องดูกว้างขึ้น สว่างขึ้น. สำหรับห้องที่มีความสูงมากๆ ควรใช้วอลเปเปอร์ที่มีลายขวางหรือนวนอน และห้องที่มีความสุงไม่มกา ควรใช้วอลเปเปอร์ที่มีลายตามความสุงหรือลายตั้งก็จะทำให้ห้องดูสูงขึ้น.
3. สีของเฟอร์นิเจอร์ : เพื่อให้การติดวอลเปเปอร์ดูสวยงามมากขึ้น ควรเลือกสีให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ที่จะใช้หรือที่มีอยู่แล้ว.
4. บรรยากาศของห้องที่ต้องการ : โดยพิจารณาความต้องการของตนเองว่าอยากให้ห้องที่จะตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์ออกมาในบรรยากาศแบบใด แบบคลาสสิค แบบโมเดิร์น แบบเรียบๆ แบบน่ารักสดใส แบบวินเทจ ธรรมชาติ ซึ่งวอลเปเปอร์มีให้เลือกมากมาย เช่น ลายดอกไม้ ลายทาง ลายโมเดิร์น ลายคลาสสิค ลายหลุยส์ ลายไม้ ลายปูน ลายหิน ลายผ้า ลายการ์ตูน เป็นต้น.
5. ชนิดของวอลเปเปอร์ที่ต้องการ : ชนิดไวนิลสำหรับติดผนัง ทนทาน ดูหรูมีคุณค่า ให้ความสวยงาม ทำความสะอาดง่าย เหมาะสำหรับห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องอาหาร ห้องพระ เป็นต้น. ชนิดถึงโฟมไวนิล ให้ความสวยงามมีมิติ ทำความสะอาดได้ เหมาะสำหรับทุกห้องในบ้าน. ชนิดโฟม ใช้สำหรับติดตั้งผนัง ทำให้ห้องดูมีมิติมากขึ้น ดูสวยงามเป็นธรรมชาติ ให้บรรยากาศรูปแบบที่ติดลงบนผนัง เหมาะสำหรับห้องโถง ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น หรือติดเพดานจะทำให้มีมิติของลวดลายที่สวยงาม.
6. งบประมาณในการตกแต่ง : วอลเปเปอร์มีให้เลือกหลายราคา เริ่มตั้งแต่ตารางเมตรละไม่ถึง 100 บาท ถึงมากกว่า 1000 บาท ถ้างบประมาณในการตกแต่งมาก ควรเลือกใช้วอลเปเปอร์ที่มีคุณภาพดี โดยพิจารณาจากราคาเป็นเกณฑ์.